การเดิน หมายถึง การเดินระยะไกล เดินเร็วพอสมควร ในระยะต้นใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพของแต่ละคน เมื่อร่างกายแข็งแรงแล้วจะเพิ่มเวลาให้มากขึ้นเป็นหนึ่งชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ควรเดินออกกำลังกายตอนเช้าหรือเย็นเพราะอากาศไม่ร้อน ช่วยให้เดินได้นานขึ้น การเดินนั้นจะเดินในทุ่งโล่ง สนามกีฬา ริมทะเล สวนสาธารณะ หรือริมถนนที่มีต้นไม้ร่มรื่นก็ได้ การเดินนั้น จะเหมาะกับผู้สูงอายุและบุคคลที่มีรูปร่างอ้วนมาก ๆ
การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด เพราะโดยธรรมชาติมนุษย์รู้จักการวิ่งมาตั้งแต่ ดึกคำบรรพ์ การวิ่งทำให้ร่างกายทุกส่วนได้ออกกำลัง ในระยะเริ่มต้นควรวิ่งเหยาะ ๆ (Jogging) ก่อน ใช้เวลา 5-10 นาที หากรู้สึกเหนื่อยมากควรหยุดหรือเปลี่ยนเป็นเดิน เมื่อหายเหนื่อยแล้วควรวิ่งต่อและเมื่อร่างกายแข็งแรงดีแล้วจึงเพิ่มการวิ่งให้มากขึ้น โดยเพิ่มระยะทางหรือความเร็วในการวิ่งขึ้นทีละน้อย
การว่ายน้ำ
การว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำนั้น ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลเพื่อสุขภาพมากที่สุด เพราะเนื่องจากกล้ามเนื้อทุกส่วนได้ออกกำลังกาย การว่ายน้ำควรทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ควรว่ายน้ำให้มีความเร็วและไกลพอควร เช่น ควรว่ายให้ได้ระยะ 300 เมตรติดต่อกัน ภายในเวลา 8 นาทีเป็นต้น การว่ายน้ำก็เช่นเดียวกับการวิ่งและเล่นกีฬาอื่น ๆ คือ ไม่ควรออกกำลังกายเต็มที่ในช่วงเริ่มต้น โดยเริ่มจากการว่ายช้า ๆ ก่อน คือว่าย 100 เมตร ช้า ๆ แล้วพักประมาณ 5 นาทีแล้วว่าย 5 เมตร พักอีก 5 นาที หายเหนื่อยแล้วว่ายครั้งสุดท้ายอีก 50 เมตร เมื่อร่างกายแข็งแรงดีแล้วค่อยเพิ่มระยะทางขึ้น
การว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำนั้น ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ให้ผลเพื่อสุขภาพมากที่สุด เพราะเนื่องจากกล้ามเนื้อทุกส่วนได้ออกกำลังกาย การว่ายน้ำควรทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ควรว่ายน้ำให้มีความเร็วและไกลพอควร เช่น ควรว่ายให้ได้ระยะ 300 เมตรติดต่อกัน ภายในเวลา 8 นาทีเป็นต้น การว่ายน้ำก็เช่นเดียวกับการวิ่งและเล่นกีฬาอื่น ๆ คือ ไม่ควรออกกำลังกายเต็มที่ในช่วงเริ่มต้น โดยเริ่มจากการว่ายช้า ๆ ก่อน คือว่าย 100 เมตร ช้า ๆ แล้วพักประมาณ 5 นาทีแล้วว่าย 5 เมตร พักอีก 5 นาที หายเหนื่อยแล้วว่ายครั้งสุดท้ายอีก 50 เมตร เมื่อร่างกายแข็งแรงดีแล้วค่อยเพิ่มระยะทางขึ้น
การถีบจักรยาน
การถีบจักรยาน เป็นการออกกำลังกายที่ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในท้องถิ่นซึ่งการจราจร ไม่คับคั่งจนไม่เป็นที่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้จักรยาน การถีบจักรยานเพื่อการออกกำลังกาย ทำได้หลายรูปแบบ เช่น อาจใช้จักรยานเดินทางท่องเที่ยวเพื่อทัศนศึกษาในวันสุดสัปดาห์หรือการใช้จักรยานเพื่อสมาชิก
ในครอบครัวไปพักผ่อนหย่อนใจในสถานที่ต่าง ๆ และการใช้จักรยานเพื่อไปซื้อของหรือจ่ายตลาดเป็นต้น
วิธีการการถีบจักรยาน เพื่อร่างกายที่แข็งแรงทำได้โดยถีบด้วยความเร็วพอควรแต่สมาเสมอหรือถีบช้า ๆ
สลับกับถีบเร็ว ๆ เป็นช่าง ๆ ก็ได้ ระยะทางที่ใช้ควรไกลพอควร เช่นระยะแรก ๆ อาจใช้ระยะทางประมาณ 4-6
กิโลเมตรก่อน ต่อไปจึงค่อยเพิ่มระยะทางขึ้นหรือเพิ่มความเร็วขึ้นก็ได้
นอกจากถีบจักรยานไปตามถนนแล้ว ปัจจุบันมีการผลิตจักรยานชนิดอยู่กับที่ (Stationary bicycle) เพื่อใช้
ในการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะการออกกำลังกายชนิดนี้มีข้อได้
เปรียบหลายอย่าง เช่น สามารถทำได้ในบ้านไม่ว่าจะเป็นที่ระเบียงในห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องนอน ในที่ทำงาน
ก็สามารถถีบจักรยาน ชนิดนี้ตั้งไว้ได้ สามารถออกกำลังกายได้ทุกวัน และทุกเวลาตามต้องการ มีความสะดวก
และปลอดภัย และยังสามารถตั้งความฝืดของล้อและระยะทาง เพื่อให้หัวใจของผู้ถีบเต้นเร็วมากน้อยเพียงไรก็ตาม
การกระโดดเชือก
การกระโดดเชือก ก็นับเป็นการออกกำลังกายที่สะดวกสบายวิธีหนึ่ง และยังเป็นการประหยัด อีกด้วย ข้อสำคัญคือ
ต้องมีเชือกกระโดดที่ยาวพอดี คือเมื่อใช้เท้าทั้งสองข้างเหยียดตรงกลางเชือกและดึงให้ตึงขึ้นมาแล้ว มือจับทั้ง
สองข้างจะต้องอยู่ระดับอกพอดี และต้องมีมือจับที่ปลายเชือกขนาดกระชับมือและไม่ทำให้เชือกบิดเป็นเกลียว วิธีกระโดดไม่ต้องให้สูงมากแค่เท้าสูงพ้นเชือกก็พอแล้ว เวลากระโดดต้นแขนและข้อศอกควรแนบข้างลำตัวแกว่ง
แต่แขนส่วนปลายข้อมือเท่านั้น ไม่ใช่แกว่งไปทั้งแขนโดยใช้หัวไหล่และกางเกงออกไปมาก ๆ กระโดดบนพื้นที่
ไม่แข็งมากนัก ควรได้สวมร้องเท้าที่มีพื้นนุ่ม ๆ ด้วย และให้กระโดดด้วยปลายเท้าตรงโคนนิ้ว การเริ่มต้นใน
ครั้งแรก ๆ ค่อย ๆ ทำอย่าหักโหม เพราะอาจบาดเจ็บได้ง่าย ควรเริ่มด้วยความเร็วประมาณ 70-80 ครั้ง
ต่อนาทีก็พอ เมื่อคล่องดีจึงเพิ่มความเร็วเป็น 100-140 ครั้งต่อนาที หากรู้สึกเหนื่อยมากก็หยุดเป็นพัก ๆ
ในระยะแรก ๆ อาจกระโดดเพียง 20-30 วินาที แล้วพัก 10-15 วินาทีแล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาให้มากขึ้นตามลำดับอย่างไรก็ตามการออกกำลังกายด้วยวิธีกระโดดเชือกไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีรูปร่างอ้วนหรือมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเท้า เป็นต้น
การถีบจักรยาน เป็นการออกกำลังกายที่ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในท้องถิ่นซึ่งการจราจร ไม่คับคั่งจนไม่เป็นที่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้จักรยาน การถีบจักรยานเพื่อการออกกำลังกาย ทำได้หลายรูปแบบ เช่น อาจใช้จักรยานเดินทางท่องเที่ยวเพื่อทัศนศึกษาในวันสุดสัปดาห์หรือการใช้จักรยานเพื่อสมาชิก
ในครอบครัวไปพักผ่อนหย่อนใจในสถานที่ต่าง ๆ และการใช้จักรยานเพื่อไปซื้อของหรือจ่ายตลาดเป็นต้น
วิธีการการถีบจักรยาน เพื่อร่างกายที่แข็งแรงทำได้โดยถีบด้วยความเร็วพอควรแต่สมาเสมอหรือถีบช้า ๆ
สลับกับถีบเร็ว ๆ เป็นช่าง ๆ ก็ได้ ระยะทางที่ใช้ควรไกลพอควร เช่นระยะแรก ๆ อาจใช้ระยะทางประมาณ 4-6
กิโลเมตรก่อน ต่อไปจึงค่อยเพิ่มระยะทางขึ้นหรือเพิ่มความเร็วขึ้นก็ได้
นอกจากถีบจักรยานไปตามถนนแล้ว ปัจจุบันมีการผลิตจักรยานชนิดอยู่กับที่ (Stationary bicycle) เพื่อใช้
ในการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะการออกกำลังกายชนิดนี้มีข้อได้
เปรียบหลายอย่าง เช่น สามารถทำได้ในบ้านไม่ว่าจะเป็นที่ระเบียงในห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องนอน ในที่ทำงาน
ก็สามารถถีบจักรยาน ชนิดนี้ตั้งไว้ได้ สามารถออกกำลังกายได้ทุกวัน และทุกเวลาตามต้องการ มีความสะดวก
และปลอดภัย และยังสามารถตั้งความฝืดของล้อและระยะทาง เพื่อให้หัวใจของผู้ถีบเต้นเร็วมากน้อยเพียงไรก็ตาม
การกระโดดเชือก
การกระโดดเชือก ก็นับเป็นการออกกำลังกายที่สะดวกสบายวิธีหนึ่ง และยังเป็นการประหยัด อีกด้วย ข้อสำคัญคือ
ต้องมีเชือกกระโดดที่ยาวพอดี คือเมื่อใช้เท้าทั้งสองข้างเหยียดตรงกลางเชือกและดึงให้ตึงขึ้นมาแล้ว มือจับทั้ง
สองข้างจะต้องอยู่ระดับอกพอดี และต้องมีมือจับที่ปลายเชือกขนาดกระชับมือและไม่ทำให้เชือกบิดเป็นเกลียว วิธีกระโดดไม่ต้องให้สูงมากแค่เท้าสูงพ้นเชือกก็พอแล้ว เวลากระโดดต้นแขนและข้อศอกควรแนบข้างลำตัวแกว่ง
แต่แขนส่วนปลายข้อมือเท่านั้น ไม่ใช่แกว่งไปทั้งแขนโดยใช้หัวไหล่และกางเกงออกไปมาก ๆ กระโดดบนพื้นที่
ไม่แข็งมากนัก ควรได้สวมร้องเท้าที่มีพื้นนุ่ม ๆ ด้วย และให้กระโดดด้วยปลายเท้าตรงโคนนิ้ว การเริ่มต้นใน
ครั้งแรก ๆ ค่อย ๆ ทำอย่าหักโหม เพราะอาจบาดเจ็บได้ง่าย ควรเริ่มด้วยความเร็วประมาณ 70-80 ครั้ง
ต่อนาทีก็พอ เมื่อคล่องดีจึงเพิ่มความเร็วเป็น 100-140 ครั้งต่อนาที หากรู้สึกเหนื่อยมากก็หยุดเป็นพัก ๆ
ในระยะแรก ๆ อาจกระโดดเพียง 20-30 วินาที แล้วพัก 10-15 วินาทีแล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาให้มากขึ้นตามลำดับอย่างไรก็ตามการออกกำลังกายด้วยวิธีกระโดดเชือกไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีรูปร่างอ้วนหรือมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเท้า เป็นต้น
การเต้นแอโรบิค
การเต้นแอโรบิค หรือแอโรบิคดานซ์ (Aerobic dance) เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในหมู่สตรีที่นิยมเต้นเข้าจังหวะดนตรี เป็นวิธีลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักตัวได้ดีวิธีหนึ่ง ข้อดีของวิธีการเต้นแอโรบิคอีกประการหนึ่ง ก็คือจะมีการเคลื่อนไหวของร่างกายทุกส่วน และสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ข้างหลังและข้าง ๆ ซึ่งการวิ่ง และเดินไม่สามารถทำได้โดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวทางข้าง ข้อสำคัญของการเต้นแอโรบิคคืออย่าให้หนักเกินไป การเต้นแต่ละครั้งอย่าให้เกิน 30 นาที และควรเต้นเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน หรือเพียงวันเว้นวันพอแล้ว ควรแบ่งขั้นตอนการปฏิบัติออกเป็น 3 ขั้นตอน เช่นเดียวกับการเล่นกีฬาอย่างอื่น คือขั้นอบอุ่นร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อมของ ส่วนต่าง ใช้เวลาในขั้นนี้ประมาณ 5-8 นาที ต่อมาเป็นขั้นแอโรบิคซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที และ ขั้นผ่อนคลายซึ่งเป็นการปรับสภาพร่างกายให้กับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่กล้ามเนื้อได้ทำงานมามากแล้ว ขั้นนี้ใช้เวลาพอ ๆ กับขั้นอบอุ่นร่างกาย
การเต้นแอโรบิค หรือแอโรบิคดานซ์ (Aerobic dance) เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในหมู่สตรีที่นิยมเต้นเข้าจังหวะดนตรี เป็นวิธีลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักตัวได้ดีวิธีหนึ่ง ข้อดีของวิธีการเต้นแอโรบิคอีกประการหนึ่ง ก็คือจะมีการเคลื่อนไหวของร่างกายทุกส่วน และสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ข้างหลังและข้าง ๆ ซึ่งการวิ่ง และเดินไม่สามารถทำได้โดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวทางข้าง ข้อสำคัญของการเต้นแอโรบิคคืออย่าให้หนักเกินไป การเต้นแต่ละครั้งอย่าให้เกิน 30 นาที และควรเต้นเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน หรือเพียงวันเว้นวันพอแล้ว ควรแบ่งขั้นตอนการปฏิบัติออกเป็น 3 ขั้นตอน เช่นเดียวกับการเล่นกีฬาอย่างอื่น คือขั้นอบอุ่นร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อมของ ส่วนต่าง ใช้เวลาในขั้นนี้ประมาณ 5-8 นาที ต่อมาเป็นขั้นแอโรบิคซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที และ ขั้นผ่อนคลายซึ่งเป็นการปรับสภาพร่างกายให้กับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่กล้ามเนื้อได้ทำงานมามากแล้ว ขั้นนี้ใช้เวลาพอ ๆ กับขั้นอบอุ่นร่างกาย
การเล่นกีฬา
กีฬา เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่มนุษย์คิดขึ้นเพื่อเป็นสื่อในการออกกำลังกาย ซึ่งมีทั้งกีฬาประเภทบุคคลและกีฬา ประเภททีม และประเภทที่เล่นกันในที่ร่มและเล่นกันกลางแจ้งซึ่งผู้เล่นสามารถที่ จะเลือกกีฬาเพื่อเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพตามีที่ตนเองถนัดและสนใจ กีฬา บางชนิดเล่นกัน โดยไม่มีการปะทะ ได้แก่กีฬาที่ใช้ตาข่ายกั้นกลาง เช่น แบดมินตัน เทนนิส เทเบิล เทนนิส ตระกร้อ วอลเลย์บอล เป็นต้น ซึ่งเหมาะแก่การออกกำลัง นอกจากนี้ก็เป็นกีฬาที่มีการปะทะ เช่นฟุตบอล บาสเกตบอล และแฮนด์บอล เป็นต้น ซึ่งถ้าจะเล่นเพื่อเป็นการออกกำลังกายก็ไม่ควรเล่นหลักโหม และไม่เป็นการแข่งขันเอาจริงเอาจังเกินไป ควรเล่นเพื่อให้เกิดความสนุกมากกว่า และอาจจะดัดแปลงกติกาการเล่นย่อขนาดสนามหรือเพิ่มจำนวนผู้เล่นแล้วแต่กรณี ข้อสำคัญก็คือหากเล่นแล้วรู้สึกเหนื่อยมาก ควรพักผ่อนเสียก่อน หายเหนื่อยแล้วจึงค่อยเล่นต่อตามสมรรถภาพร่างกายของแต่ละคน
กีฬา เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่มนุษย์คิดขึ้นเพื่อเป็นสื่อในการออกกำลังกาย ซึ่งมีทั้งกีฬาประเภทบุคคลและกีฬา ประเภททีม และประเภทที่เล่นกันในที่ร่มและเล่นกันกลางแจ้งซึ่งผู้เล่นสามารถที่ จะเลือกกีฬาเพื่อเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพตามีที่ตนเองถนัดและสนใจ กีฬา บางชนิดเล่นกัน โดยไม่มีการปะทะ ได้แก่กีฬาที่ใช้ตาข่ายกั้นกลาง เช่น แบดมินตัน เทนนิส เทเบิล เทนนิส ตระกร้อ วอลเลย์บอล เป็นต้น ซึ่งเหมาะแก่การออกกำลัง นอกจากนี้ก็เป็นกีฬาที่มีการปะทะ เช่นฟุตบอล บาสเกตบอล และแฮนด์บอล เป็นต้น ซึ่งถ้าจะเล่นเพื่อเป็นการออกกำลังกายก็ไม่ควรเล่นหลักโหม และไม่เป็นการแข่งขันเอาจริงเอาจังเกินไป ควรเล่นเพื่อให้เกิดความสนุกมากกว่า และอาจจะดัดแปลงกติกาการเล่นย่อขนาดสนามหรือเพิ่มจำนวนผู้เล่นแล้วแต่กรณี ข้อสำคัญก็คือหากเล่นแล้วรู้สึกเหนื่อยมาก ควรพักผ่อนเสียก่อน หายเหนื่อยแล้วจึงค่อยเล่นต่อตามสมรรถภาพร่างกายของแต่ละคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น